เครื่องหมายที่แตกต่างกัน

เครื่องหมายที่แตกต่างกัน

เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ทางสิ่งแวดล้อม (Environmental Labels) เป็นเครื่องมือในการสื่อสารระหว่าง ผู้ผลิต ผู้บริโภค และผู้รีไซเคิล เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการเลือกใช้ การคัดแยก และการรีไซเคิล รวมถึงการให้ความรู้แก่สาธารณะ และการรณรงค์เพื่อต่อต้านการทิ้งขยะเกลื่อนกลาด หรือกระตุ้นจิตสำนึกในการรีไซเคิล เป็นต้น

ประเทศที่มีกฎระเบียบเกี่ยวกับขยะบรรจุภัณฑ์ มักมีข้อกำหนดด้านการทำเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการคัดแยก อย่างไรก็ดี ข้อกำหนดรวมถึงเครื่องหมาย/สัญลักษณ์ ที่แต่ละประเทศ/ชุมชน กำหนดขึ้นในปัจจุบัน ยังเป็นสากลเท่าใดนัก ผู้ประกอบการจึงควรศึกษาข้อกำหนด ด้านการทำเครื่องหมายบนบรรจุภัณฑ์ ของแต่ละประเทศก่อน

ดูเครื่องหมาย/สัญลักษณ์รีไซเคิล ของประเทศต่างๆ คลิกที่นี่ 

นอกจาก เครื่องหมาย/สัญลักษณ์ที่ต้องแสดง ตามข้อกำหนดของกฎหมายแล้ว ยังมีประเด็นเกี่ยวกับ การติดป้าย/เครื่องหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ที่ผู้ผลิตสำแดง/สื่อให้ผู้บริโภครับรู้ เพื่อประโยชน์ทางการตลาด ที่ผู้ประกอบการควรคำนึงถึง เนื่องจากสินค้ารักษ์สิ่งแวดล้อมกำลังเป็นที่นิยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จำนวนผู้บริโภค ที่ต้องการเลือกซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีการแข่งขันกันในการโฆษณา ลักษณะเด่นทางสิ่งแวดล้อม ของสินค้าผ่านทางป้าย/เครื่องหมาย/สัญลักษณ์ บนบรรจุภัณฑ์ มีแพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาที่ตามมาคือ การเพิ่มปริมาณการแสดงเครื่องหมายที่เข้าข่าย การหลอกลวงผู้บริโภค ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา ประเทศต่างๆ จึงมีมาตรการดำเนินการที่เข้มงวด (ผ่านทางกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค) เพื่อตรวจสอบการสำแดงทางสิ่งแวดล้อม (Environmental Claim) และมีการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ผู้ประกอบการจึงควรให้ความระมัดระวัง กับการแสดงเครื่องหมายด้วย

ศึกษาตัวอย่างวิธีการแสดงข้อมูล Environmental Claims ทั้งถูกและผิด คลิกที่นี่ 

เครื่องหมาย/สัญลักษณ์ที่เป็นสากล

เครื่องหมาย/สัญลักษณ์ ที่ไม่เป็นสากล นอกจากจะเป็นภาระต่อผู้ประกอบการแล้ว ยังเป็น “กำแพง” การค้า ทำให้สินค้าไม่สามารถผ่านพรมแดนประเทศต่างๆ ได้อย่างเสรี องค์กรภาคเอกชนหลายหน่วยงาน จึงได้ร่วมกันพัฒนา เครื่องหมายสากล ขึ้นเพื่อให้ผู้ประกอบการในสาขาที่เกี่ยวข้อง ใช้เป็นแนวทาง ตัวอย่างเครื่องหมาย/สัญลักษณ์ที่ใช้กันแพร่หลายในตลาดสากล มีดังนี้

 

เครื่องหมาย “รีไซเคิลได้ (Recycleble)” และ “มาจากรีไซเคิล (Recycled)”

  • รีไซเคิล

    เครื่องหมาย “รีไซเคิลได้ (Recycleble)” และ “มาจากรีไซเคิล (Recycled)”

    Image   Image   Image   Image

    เครื่องหมาย “Mobius Loop” – ลูกศร 3 ดอก หมุนไล่กันตามกัน เป็นรูปสามเหลี่ยม ในทิศทางตามเข็มนาฬิกา ดังแสดงในด้านซ้าย เป็นสัญลักษณ์รีไซเคิล ดังเดิม โดยลูกศรแต่ละดอกแสดง “Recycling”, “Recyclale”, “Recycled Products” เมื่อใช้สัญลักษณ์นี้กับสินค้า จะเป็นการบ่งชี้ว่าสินค้าที่ระบุนี้ เป็นสินค้าที่ รีไซเคิลได้ กรณีที่มีกฎหมาย/ข้อกำหนดให้ต้องเก็บซาก เครื่องหมายนี้จะบอกให้รู้ว่า สามารถนำสินค้าที่มีเครื่องหมายนี้ ไปรีไซเคิลได้ สินค้าที่มีเครื่องหมายนี้ มีวัสดุบางส่วนมาจากการรีไซเคิล โดยทั่วไปมักมีข้อมูลเพิ่มเติม เพื่ออธิบายเครื่องหมาย เช่น “พิมพ์บนกระดาษรีไซเคิล” และหากมีการระบุสัดส่วนเป็นเปอร์เซนต์ภายใน Mobius Loop ตัวเลขที่ระบะเป็นการแสดงสัดส่วน วัสดุรีไซเคิลที่ใช้ในสิน

  • ระบบรหัสวัสดุ

    ระบบรหัสวัสดุ สำหรับขวดพลาสติก และเรซิ่น

    สมาคมอุตสาหกรรมพลาสติก (Society of the Plastics Industry (SPI) ได้กำหนดระบบรหัสเรซิ่น ในปี ค.ศ. 1988 เครื่องหมายนี้ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติก และขวดพลาสติก (สำหรับชิ้นส่วนพลาสติก-ดูมาตรฐาน ISO 11469:1993 2000 “Plastics – Generic Identification and Marking of Plastic Products”) นอกจากนี้ 38-39 รัฐในสหรัฐอเมริกา (AK, AL, AZ, AR, CA, CO, CT , DE, FL, GA, HI, IA, IL, IN, KS, KY, LA, MD, ME, MA, MO, MS, MN, NC, ND, NE, NJ, NV, OH, OK, OR, RI, SC, SD, TN, TX, VA, WA, WI) มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการทำเครื่องหมายบ่งชี้เรซิ่น โดยประยุกต์ใช้ระบบของ SPI

    สมาคมอุตสาหกรรมพลาสติก (Society of the Plastics Industry (SPI)) ได้กำหนดระบบรหัสเรซิ่น ในปี ค.ศ. 1988 เครื่องหมายนี้ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติก และขวดพลาสติก

    กรณีที่ใช้วัสดุรีไซเคิลมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ ผู้ผลิตอาจเพิ่มตัวอักษร “R” ด้านหน้าอักษรย่อ เช่น “RPS”, “RHDPE” เพื่อแสดงให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบว่าเรซิ่นที่ใช้ในสินค้าชิ้นนี้ ผ่านการรีไซเคิลมาแล้ว (อย่างน้อย 1 ครั้ง) แต่ยังสามารถรีไซเคิลได้อีก

  • รีไซเคิลสำหรับกระดาษ

    เครื่องหมาย/สัญลักษณ์ รีไซเคิลสำหรับกระดาษ

    รูปแบบและการใช้สัญลักษณ์ตามแนวทางของ AF&PA (American Forest and Paper Association)

    Image

    เครื่องหมายนี้ใช้เพื่อระบุว่า สินค้านี้สามารถรีไซเคิลได้

    ImageImage

    เครื่องหมายนี้ใช้สำหรับสินค้าผลิตจาก 100% เส้นใยรีไซเคิล (Recycled Fiber)

    Image

    เครื่องหมาย RPA-100% สำหรับสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ที่ทำจาก กระดาษ Paperboard รีไซเคิล 100% (อ่านเงื่อนไขวิธีการใช้เครื่องหมายที่ 100% Recycled Paperboard Alliance- www.rpa100.com)

    Image

    ระบุสัดส่วนเส้นใยรีไซเคิลที่ใช้ผลิตสินค้า ใต้ Mobius Loop กรณีที่สินค้าหรือบรรจุภัณฑ์มีสัดส่วน เส้นใยรีไซเคิลต่ำกว่า 100%

    Image

    เครื่องหมายเฉพาะสำหรับกระดาษลูกฟูก พัฒนาโดย Corrugated Packaging Alliance(CPA)

    Image

    กรณีที่มีการเคลือบผิวกระดาษโดยวัสดุที่รีไซเคิลได้และผ่านการทดสอบตามมาตรฐานการทดสอบของ CPA ผู้ผลิตสามารถใช้เครื่องหมายข้างต้น (เพิ่มตัว A=Wax Alternative) 

     

  • รีไซเคิลสำหรับแก้ว

    เครื่องหมาย/สัญลักษณ์ รีไซเคิลสำหรับแก้ว

    เครื่องหมาย/สัญลักษณ์ สำหรับแก้วมักไม่ค่อยได้รับความนิยม เนื่องจากไม่มีปัญหาในการบ่งชี้ ผู้บริโภคสามารถ คัดแยกขยะบรรจุภัณฑ์ที่ำทำจากแก้ว ออกจากวัสดุชนิดอื่นได้โดยง่าย แรงผลักดันในการทำเครื่องหมายบนแก้ว จึงมิใช่เพื่อการบ่งชี้วัสดุ แต่เพื่อใช้เป็นแนวทาง ในการประกาศคุณลักษณะทางสิ่งแวดล้อม เพื่อประโยชน์ทางการตลาด (Environmental marketing claims)    

    Image

    เครื่องหมาย “Recycling G” พัฒนาโดย Glass Packaing Institute (GPI) เพื่อชี้ให้ผู้บริโภคทราบว่า บรรจุภัณฑ์ชิ้นนั้นๆ ผลิตจากแก้วรีไซเคิล และสามารถนำไปรีไซเคิลได้อีก

    Image

    Please put this in the bottle bank” เป็นเครื่องหมาย ที่มุ่งหวังเพื่อ การกระตุ้นจิตสำนึกของผู้บริโภค

     

  • ข้อควรระวังในการใช้เครื่องหมาย

    ข้อควรระวังในการใช้เครื่องหมาย/สัญลักษณ์ สิ่งแวดล้อม

    การแสดงเครื่องหมาย/สัญลักษณ์ ในประเด็นทางสิ่งแวดล้อม นอกจากจะมีประเด็นด้านข้อกำหนดของกฎหมาย แล้ว ยังมีประเด็นผลประโยชน์ทางการตลาดเข้ามาเกี่ยวข้อง การใช้เครื่องหมายรีไซเคิล บางรายการในบางประเทศ (เช่น สหภาพยุโรป) จำเป็นต้องมีหลักฐานและผลการทดสอบ  รวมถึงการตรวจประเมินจากหน่วยงานที่เป็นที่ยอมรับ ในขณะที่การสำแดงทางสิ่งแวดล้อม (Environmental Claim) ในด้านอื่นถูกจับตาอย่างใกล้ชิดในหลายประเทศ 

    หากเราได้ออกสำรวจสินค้าในตลาด จะเห็นว่าปัจจุบัน การแข่งขันในตลาดสินค้ารักษ์สิ่งแวดล้อม เริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้เนื่องจากสินค้ารักษ์สิ่งแวดล้อมเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น ผู้บริโภคเริ่มนำประเด็นทางสิ่งแวดล้อมของสินค้า มาพิจารณาเปรียบเทียบ และหันมา
    เลือกซื้อ สินค้า/บริการที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มากขึ้น ผู้ผลิตจึงหันมาใช้ เครื่องหมาย/สัญลักษณ์ หรือ ป้ายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม (Environmental Labels-EL) หรือการสำแดงทางสิ่งแวดล้อม เพื่อดึงดูดผู้บริโภค 

    ปัญหาที่ตามมาคือ การเพิ่มปริมาณการแสดงเครื่องหมายที่เข้าข่าย การหลอกลวงผู้บริโภค ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา การแสดงเครื่องหมาย/สัญลักษณ์สิ่งแวดล้อม ของผู้ผลิตบางราย อาจแสดงขึ้นมาลอยๆ โดยไม่มีข้อมูล/ผลการทดสอบยืนยัน บางครั้ง เครื่องหมาย/สัญลักษณ์บางอย่างก็อาจ  ไม่ชัดเจนและทำให้ผู้บริโภคเ้ข้าใจผิด ซึ่งการให้ข้อมูล/การแสดงเครื่องหมายแก่ผู้บริโภคในลักษณะนี้ นอกจากจะก่อให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมแล้ว ยังสามารถเป็นภัยต่อการพัฒนา  นวัตกรรมเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และทำให้ผู้บริโภคเสื่อมความเชื่อมั่นในเครื่องหมายสิ่งแวดล้อม ประเทศต่างๆ จึงมีมาตรการดำเนินการ (ส่วนใหญ่ผ่านทาง กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค) ที่เข้มงวด เพื่อตรวจสอบการสำแดงทางสิ่งแวดล้อม (Environmental Claim) และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด 

    เพื่อป้องกันปัญหานี้ หลายประเทศ/หลายองค์กร ได้ออกมาชี้แจง และออกเอกสารคำแนะนำ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย (รวมถึงผู้บริโภคและผู้บังคับใช้กฎหมาย) ได้ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ ตัวอย่างเอกสารสำคัญที่ควรศึกษาและนำมาใช้เป็นแนวทาง ในการทำเครื่องหมายบนสินค้าและบรรจุภัณฑ์ เช่น

    • มาตรฐานชุด ISO 14000 ในชุด Environmental Labeling (14020, 14021, 14022, 14023, 14024, 14025) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ISO 14021 “Environmental Labels and Declarations – Self-Declared Environmental Claims (Type II Environmental Labelling)” ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้แนวทางเกี่ยวกับ การใช้คำศัพท์ สัญลักษณ์ และวิธีการทดสอบและการยืนยันผล เพื่อใช้ในการสำแดงตนเอง ในประเด็นเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมในตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการ (เช่นการแสดงเครื่องหมาย “รีไซเคิลได้” “% วัสดุรีไซเคิล” เป็นต้น)
    • สหภาพยุโรป: คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป โดย DG Health&Consumer Protection ได้ออกเอกสาร “Guideline for Making ans Assessing Environmental Claims“, December 2000
    • สหรัฐอเมริกา: Federal Trade Commissions ได้ออกเอกสาร “Guides of the Use of Environment Marketing Claims” เผยแพร่บนเว็บไซด์ ให้ผู้เกี่ยวข้องศึกษา/ทำความเข้าใจที่ http://www.ftc.gov/bcp/grnrule/guides980427.htm#260.1
    • DEFRA website เกี่ยวกับ คำแนะำนำในการสำแดงทางสิ่งแวดล้อม สำหรับสินค้าแต่ละชนิด http://www.defra.gov.uk/environment/consumerprod/publications/index.htm

      แหล่งข้อมูล:

      1. American Forest and Paper Association: http://www.afandpa.org
      2. “Paper Recycling Symbol Guidelines & Environmental Marketing Claim”, American Forest & Paper Association
      3. EarthOdyssey, LLC: http://www.earthodyssey.com/symbols.html 
      4. PaperSpec: http://www.paperspecs.com/resources/environment/recycling.htm
      5. Glass Packaging Institute: http://www.gpi.org/
      6. “16 CFR Part 260-Guides for the use of Environmental Marketing Claims”, US-Federal Trade Commission, April 22, 1998
      7. “Guideline for Making ans Assessing Environmental Claims”, December 2000, Report prepared by Dr. Juan Palerm for European Commission, Directorate-General Health & Consumer Protection, Report No. 67/94/22/1/00281 ดาวน์โหลดได้ที่ ec.europa.eu/consumers/cons_safe/news/green/guidelines_en.pdf
      8. DEFRA website “Consumer Products and the Environment”  http://www.defra.gov.uk/environment/consumerprod/publications/index.htm

เครื่องหมายที่แตกต่างกัน เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ทางสิ่งแวดล้อม (Environmental Labels) เป็นเครื่องมือในการสื่อสารระหว่าง ผู้ผลิต ผู้บริโภค และผู้รีไซเคิล เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการเลือกใช้ การคัดแยก และการรีไซเคิล รวมถึงการให้ความรู้แก่สาธารณะ และการรณรงค์เพื่อต่อต้านการทิ้งขยะเกลื่อนกลาด หรือกระตุ้นจิตสำนึกในการรีไซเคิล เป็นต้น ประเทศที่มีกฎระเบียบเกี่ยวกับขยะบรรจุภัณฑ์ มักมีข้อกำหนดด้านการทำเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการคัดแยก อย่างไรก็ดี ข้อกำหนดรวมถึงเครื่องหมาย/สัญลักษณ์ ที่แต่ละประเทศ/ชุมชน กำหนดขึ้นในปัจจุบัน ยังเป็นสากลเท่าใดนัก ผู้ประกอบการจึงควรศึกษาข้อกำหนด ด้านการทำเครื่องหมายบนบรรจุภัณฑ์ ของแต่ละประเทศก่อน ดูเครื่องหมาย/สัญลักษณ์รีไซเคิล ของประเทศต่างๆ คลิกที่นี่  นอกจาก เครื่องหมาย/สัญลักษณ์ที่ต้องแสดง ตามข้อกำหนดของกฎหมายแล้ว ยังมีประเด็นเกี่ยวกับ การติดป้าย/เครื่องหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ที่ผู้ผลิตสำแดง/สื่อให้ผู้บริโภครับรู้ เพื่อประโยชน์ทางการตลาด ที่ผู้ประกอบการควรคำนึงถึง เนื่องจากสินค้ารักษ์สิ่งแวดล้อมกำลังเป็นที่นิยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จำนวนผู้บริโภค ที่ต้องการเลือกซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีการแข่งขันกันในการโฆษณา ลักษณะเด่นทางสิ่งแวดล้อม ของสินค้าผ่านทางป้าย/เครื่องหมาย/สัญลักษณ์ บนบรรจุภัณฑ์ มีแพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาที่ตามมาคือ การเพิ่มปริมาณการแสดงเครื่องหมายที่เข้าข่าย การหลอกลวงผู้บริโภค ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา ประเทศต่างๆ จึงมีมาตรการดำเนินการที่เข้มงวด (ผ่านทางกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค) เพื่อตรวจสอบการสำแดงทางสิ่งแวดล้อม (Environmental Claim)…